สำหรับใครที่กำลังเลี้ยงปลาคาร์ฟ ปลาทอง หรือปลาสวยงามชนิดต่างๆ สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้การออกแบบบ่อเลี้ยง คือ “ระบบกรองบ่อปลา” เพราะคุณภาพน้ำคือปัจจัยหลักที่กำหนดความแข็งแรงของปลา ยิ่งน้ำสะอาด ปลายิ่งเจริญเติบโตดี บ่อก็ใสในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจประเภทของระบบกรอง วิธีเลือก การดูแลรักษา รวมถึงเคล็ดลับที่ช่วยให้บ่อปลาทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่และผู้ที่ต้องการอัปเกรดบ่อปลาเดิมให้ใช้งานได้ดีขึ้น
ความสำคัญของระบบกรองบ่อปลา
ระบบกรองคือหัวใจหลักของบ่อปลา เพราะทำหน้าที่ปรับคุณภาพน้ำให้สมดุล กำจัดของเสีย เศษอาหาร แอมโมเนีย และแบคทีเรียที่สะสมในน้ำ หากไม่มีระบบกรอง น้ำจะขุ่น ส่งกลิ่นและเสี่ยงต่อการเกิดโรคในปลาช่วยให้น้ำใสสะอาดอยู่เสมอ
- ลดปริมาณสารพิษที่เป็นอันตรายต่อปลา
- ควบคุมปริมาณออกซิเจนในน้ำได้ดีขึ้น
- ทำให้ระบบนิเวศในบ่อมีความสมดุลยาวนาน
การเตรียมพร้อมก่อนเลือกระบบกรองที่เหมาะสม
- ขนาดบ่อปลา ปริมาณน้ำส่งผลโดยตรงต่อขนาดของระบบกรอง
- จำนวนปลาและชนิดปลา ถ้ามีปลาเยอะ ต้องใช้ระบบกรองที่รองรับของเสียมากขึ้น
- พื้นที่ติดตั้ง เพื่อเลือกระบบกรองที่เข้ากับพื้นที่และการเดินท่อ
- งบประมาณ เพื่อเลือกแบบที่คุ้มค่าที่สุดต่อการใช้งานระยะยาว
ประเภทของระบบกรองบ่อปลา ควรเลือกแบบไหน?
ระบบกรอง ( Filter)
- ระบบกรองพื้นฐานที่ติดตั้ง เหมาะกับบ่อขนาดเล็กถึงปานกลาง ใช้งานง่าย ดูแลง่าย แต่ประสิทธิภาพอาจไม่พอสำหรับบ่อใหญ่หรือจำนวนปลามาก
ระบบกรองแบบมีแรงดัน (Pressure Filter)
- ใช้แรงดันช่วยกรองน้ำให้สะอาดอย่างรวดเร็ว มีความสามารถกำจัดตะกอนและปรับสภาพน้ำได้ดี เหมาะกับบ่อปลาคาร์ฟหรือบ่อที่ต้องการความใสเป็นพิเศษ
ระบบกรองแบบไหลผ่าน (Gravity Flow Filter)
- เป็นระบบกรองยอดนิยมเพราะดูแลง่าย ใช้แรงโน้มถ่วงให้น้ำไหลผ่านสื่อกรองหลายชั้น ช่วยกำจัดของเสียได้ดี เหมาะสำหรับบ่อปลากลาง–ใหญ่
ระบบกรองไหลผ่านแบบโมดูลาร์ (Modular Filter System)
- ระบบที่สามารถเพิ่มหรือถอดโมดูลได้ตามต้องการ ยืดหยุ่นสูง รองรับบ่อปลาขนาดใหญ่หรือฟาร์มปลา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการระบบกรองที่อัปเกรดได้ในอนาคต
การดูแลรักษาและบำรุงรักษาระบบกรอง
- การล้างทำความสะอาดไส้กรองตามรอบเวลาที่กำหนด โดยหลีกเลี่ยงการล้างด้วยแรงดันที่สูงเกินความจำเป็น เพื่อรักษาจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ภายในระบบไว้ให้คงอยู่
- ตรวจเช็คปั๊มน้ำและแรงดันการไหลของน้ำ
- ดูดตะกอนในบ่อเป็นประจำ
- เปลี่ยนน้ำบางส่วน 10–20% ทุกสัปดาห์หรือเมื่อจำเป็น
- ตรวจสอบค่าคุณภาพน้ำ เช่น pH, แอมโมเนีย, ไนไตรต์
แนะนำระบบกรองปลา Aquabiome จาก J5 Swimming Pool เพื่อบ่อใส ปลาแข็งแรง
ออกแบบมาเพื่อให้คุณภาพน้ำใสสะอาดและส่งเสริมสุขภาพความแข็งแรงของปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในระบบกรองที่ได้รับความนิยมคือ Aquabiome ระบบกรองปลาประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่มีความเสถียรในระยะยาว
Aquabiome คืออะไร?
Aquabiome คือระบบกรองสำหรับบ่อปลาและงานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบ Mechano–Biological Filter ที่รวมทั้งการกรองเชิงกลและการกรองเชิงชีวภาพไว้ในถังเดียว ตัวถังผลิตจาก ไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนแดด ทนเคมี และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ่อปลากลางแจ้งที่ต้องการความทนทานยาวนาน
จุดเด่นของระบบกรอง Aquabiome
1. ระบบกรอง 2 ชั้น (Mechanical + Biological)
- Aquabiome สามารถดักจับเศษอาหาร ตะกอน ขี้ปลา และของเสียต่าง ๆ พร้อมทั้งรองรับการเติบโตของแบคทีเรียดี ช่วยแปรสภาพสารพิษ เช่น แอมโมเนีย ให้ปลอดภัยต่อปลา กระบวนการสำคัญของบ่อปลาทุกประเภท
2. ตัวถังไฟเบอร์กลาส แข็งแรง ทนแดด ทน UV
- เหมาะสำหรับติดตั้งกลางแจ้ง ไม่เสื่อมสภาพง่าย ใช้งานได้ยาวนาน แม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย
3. ระบบ Backwash ทำความสะอาดง่าย
- เพียงปรับวาล์วล้างย้อน ระบบจะขจัดสิ่งสกปรกออกจากสื่อกรองช่วยให้บ่อสะอาดสม่ำเสมอ ลดเวลาและแรงในการดูแลบ่ออย่างมาก
4. รองรับหลายขนาดบ่อ
- สามารถเลือกขนาดของ Aquabiome ตามขนาดบ่อและจำนวนปลาที่เลี้ยง เหมาะทั้งบ่อเล็ก–บ่อขนาดใหญ่ของบ้าน รีสอร์ต หรือฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
Aquabiome คือระบบกรองบ่อปลาประสิทธิภาพสูงที่รวมการกรองเชิงกลและชีวภาพไว้ในถังเดียว ช่วยให้น้ำใส ลดของเสีย และสร้างสมดุลคุณภาพน้ำที่ดีต่อสุขภาพปลา ตัวถังผลิตจากไฟเบอร์กลาสทนทาน เหมาะกับบ่อปลาคาร์ฟบ่อปลาสวยงาม และระบบเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทุกประเภท จุดเด่นคือการดูแลที่ง่ายด้วยระบบล้างย้อน (Backwash) และรองรับการใช้งานร่วมกับปั๊มน้ำ และระบบ UV ได้อย่างครบถ้วน J5 Swimming Pool คัดสรรและจำหน่ายระบบ Aquabiome พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องเลือกขนาด ติดตั้ง และการดูแล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ่อปลาใสสะอาดและดูแลง่ายในระยะยาว
สนใจติดตั้งระบบสระว่ายน้ำ J5 Swimming Pool เราให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบสระว่ายน้ำพร้อมจำหน่ายอุปกรณ์สระว่ายน้ำครบวงจร เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับการวางระบบสระว่ายน้ำที่เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ : 02-277-1345 หรือ Line: @j5pool
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับระบบกรองบ่อปลา
สัดส่วนของบ่อกรองควรเป็นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับบ่อเลี้ยงปลา?
1.คิดจากจำนวนปริมาตรน้ำ มีให้เลือกตั้งแต่ 13,000-90,000 ลิตร
2.คิดตาม ลบ.ม เช่น 20ลบ.ม/2ชั่วโมง (Tumover) = 10m3/hr มีให้เลือกตั้งแต่ 3.1-15.3 m3/h
3.คิดจากจำนวนปลาที่เลี้ยง
3.1ปลาสวยงาม มีให้เลือก ตั้งแต่10.7-80 kg
3.2ปลาเลี้ยง เช่นปลานิล อื่นๆ มีให้เลือกตั้งแต่ 31-240 kg
เราควรทำความสะอาดระบบกรองบ่อยแค่ไหน?
- ตรวจสอบระบบกรองทุก 1–2 สัปดาห์ เพื่อติดตามการอุดตันและการไหลของน้ำ
- ทำความสะอาดส่วน Mechanical (ดักของแข็ง) ประมาณ ทุก 1–2 สัปดาห์ หรือเมื่อเห็นว่าการไหลลดลง
- ทำความสะอาดส่วน BIO-MEC (กรองจุลินทรีย์) ทุก 1–3 เดือน โดย ล้างเบา ๆ ด้วยน้ำบ่อ เพื่อรักษาจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์
- หากบ่อมีปลาเยอะ หรือน้ำขุ่นง่าย อาจต้องเพิ่มความถี่ตามสภาพจริงของบ่อ
ถ้าไม่ติดตั้งระบบกรองเลย จะเกิดอะไรขึ้นกับบ่อปลา?
- บ่อปลาที่ไม่มีระบบกรองจะไม่สามารถรักษาคุณภาพน้ำให้เสถียรได้ ทำให้ปลาป่วยง่าย อายุสั้น และต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยจนสิ้นเปลืองทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

