หากคุณต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงที่ดังรบกวนมาจากสวนหลังบ้านของคุณ ซึ่งมันเป็นเสียงที่ทั้งแหลมที่คอยทำร้ายหูของคุณ และมันทั้งดังกว่าเสียงตะปูที่ถูกตอกบนกระดานถึง 10 เท่า เมื่อคุณไปตรวจดูถึงสาเหตุของเสียงนั้น กลับพบว่า เสียงที่ทำให้คุณรำคาญใจนี้ดังมาจาก ปั๊มสระว่ายน้ำ ของคุณนั่นเอง
มันอาจจะเป็นเพราะว่า ปั๊มสระว่ายน้ำ ของคุณกำลังจะหมดประสิทธิภาพ หรือปั๊มยังไม่เหมาะสมเพียงพอกับสระว่ายน้ำของคุณ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ซึ่งในตอนนี้อาจทำให้คุณเริ่มคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว ที่จะมองหาปั๊มสระว่ายน้ำตัวใหม่ แต่คุณอาจจะกำลังสงสัยว่า แล้วจะต้องเลือกปั๊มสระว่ายน้ำอย่างไรให้เหมาะสมกับสระว่ายน้ำของคุณมากที่สุด และเพียงพอต่องบประมาณของคุณ
ก่อนที่คุณจะไปเดินเลือกซื้อปั๊ม ขอแนะนำว่าการเปลี่ยนปั๊มสระว่ายน้ำ อยากให้คุณคำนึงไว้ว่ามันคือ “การลงทุนเพื่อสุขภาพของสระว่ายน้ำของคุณในระยะยาว” และเพื่อให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุด กับการลงทุนระยะยาวในครั้งนี้ได้ กุญแจหลักที่สำคัญ คือ คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับปั๊มสระว่ายน้ำก่อน
สำหรับบทความครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเกี่ยวกับปั๊มสระว่ายน้ำให้มากยิ่งขึ้นกันครับ ตามไปดูกันเลยครับ
ปั๊มสระว่ายน้ำ คืออะไร และมีหน้าที่ทำอะไร?
อันดับแรกต้องแนะนำก่อนว่า ปั๊มสระว่ายน้ำ นับว่าเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของระบบหมุนเวียนน้ำในสระว่ายของคุณ เพราะหากไม่มีปั๊มสระว่ายน้ำ คุณก็จะไม่มีการหมุนเวียนของน้ำ และน้ำจะไม่สามารถไหลผ่านระบบกรองของคุณได้ และนั่นก็หมายถึงคุณจะได้สระว่ายน้ำที่มีน้ำนิ่งๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสิ่งแปลกปลอมต่างๆ และเติบโตในสระว่ายน้ำสกปรก และคุณคงไม่อยากลงเล่นน้ำแบบนั้นแน่ๆ
เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างเหมาะสม ปั๊มสระว่ายน้ำจึงสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะปั๊มสระว่ายน้ำจะทำหน้าที่ดูดน้ำจากสระว่ายน้ำเข้ามาที่ปั๊ม และจ่ายน้ำไปยังระบบกรอง และดันส่งกลับไปยังสระว่ายน้ำเพื่อให้น้ำเกิดการหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ส่วนประกอบต่างๆ ของ ปั๊มสระว่ายน้ำ
เมื่อคุณจะเริ่มมองหา ปั๊มสระว่ายน้ำ ใหม่ คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ปั๊มสระว่ายน้ำนั้นมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ปั๊มสระว่ายน้ำนั้นจะประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ตัวเรือนปั๊ม ใบพัด และมอเตอร์
- ตัวเรือนปั๊ม หรือที่เรียกกันว่าเสื้อปั๊ม ส่วนนี้จะมีตะกร้า และมีฝาปิดแบบใสด้านบน ซึ่งน้ำจากสระว่ายน้ำจะถูกดูดเข้ามาในส่วนนี้ โดยจะไหลผ่านตะกร้าเพื่อกรอง ใบไม้ กิ่งไม้ ต่างๆ และส่งไปยังตัวกรองต่อไป
- ใบพัดปั๊ม จะมีลักษณะเป็นครีบผันน้ำ ที่หมุนอย่างรวดเร็ว ใช้หมุนเพื่อสร้างแรงเหวี่ยงในการสูบน้ำเข้ามาจากทางด้านหน้าของตัวเรือนปั๊ม และดันผ่านขึ้นไปทางด้านบนของตัวปั๊ม
- มอเตอร์ จะติดอยู่ที่ด้านหลังของตัวเรือนปั๊ม ทำหน้าที่ใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อหมุนใบพัด ขนาดของปั๊มจะขึ้นกับกำลังของมอเตอร์นั่นเอง
ปั๊มที่เหมาะสำหรับระบบหมุนเวียนสระว่ายน้ำ
ต่อมาก็ต้องทำความรู้จักกับปั๊มสำหรับระบบสระว่ายน้ำก่อน หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้ว่า ปั๊มแต่ละประเภท ก็มีความเหมาะสมกับการใช้งานเกี่ยวกับการหมุนเวียนของน้ำแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นระบบสุขาภิบาล ระบบบำบัดน้ำ ฯลฯ ซึ่งระบบหมุนเวียนสระว่ายน้ำเองก็มีปั๊มที่เหมาะสม ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ร่วมกับสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งปั๊มที่จะใช้ในระบบสระว่ายน้ำนั้น เราจะเรียกกันว่า Self-Priming Centrifugal Pump นั่นเอง ส่วนมีการทำงานแบบไหนนั้น และมีข้อแตกต่างจากปั๊มประเภทอื่นอย่างไร สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่บทความเรื่อง “ปั๊ม Self Priming สำหรับสระว่ายน้ำ”
ประเภทของ ปั๊มสระว่ายน้ำ
ถ้ามองย้อนกลับไป นับตั้งแต่ปั๊มสระว่ายน้ำถูกคิดค้นในครั้งแรก จนปัจจุบันนั้นได้มีการพัฒนามาไกลมาก และมีวิวัฒนาการจากประเภทหนึ่งจนแตก ออกเป็น 3 ประเภทในตลาดสระว่ายน้ำในปัจจุบัน ได้แก่
- ปั๊มความเร็วเดียว (Single Speed Pump)
หมายถึง มอเตอร์จะหมุนใบพัดด้วยความเร็วเพียงระดับเดียวเท่านั้น ซึ่งจะขึ้นอยู่ตามแรงม้าของมอเตอร์
- ปั๊มความเร็วคู่ (Dual Speed Pump)
ก็คือปั๊มสระว่ายน้ำที่มีความเร็วอยู่สองระดับ แบ่งเป็นระดับต่ำ และระดับสูง เช่น แบบความเร็วสูงเท่ากับของปั๊มความเร็วเดียวทั่วไป และระดับความเร็วต่ำจะช่วยลดในการใช้พลังงานให้น้อยลง
- ปั๊มแบบปรับความเร็วรอบได้ (Variable Speed Pump)
ประเภทที่ได้รับการพัฒนามา ให้สามารถตอบโจทย์ในการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้สามารถปรับความเร็วรอบ (RPM) ให้เหมาะกับการใช้งาน แต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ประเภทของมอเตอร์ที่ใช้ร่วมกับปั๊มสระว่ายน้ำ
ในส่วนของมอเตอร์ที่ของปั๊มสระว่ายน้ำ จะมีด้วยกันอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่มอเตอร์แบบ TEFC และ มอเตอร์แบบ ODP นั่นเอง ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามอเตอร์ทั้งสองแบบ มีข้อแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด และแต่ละประเภทก็จะมีความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันอีกด้วย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความเรื่อง “ข้อแตกต่างระหว่าง มอเตอร์ปั๊มแบบ ODP และ มอเตอร์ปั๊มแบบ TEFC”
แรงดันไฟฟ้า และความถี่ของมอเตอร์
นอกจากประเภทของมอเตอร์แล้ว คุณยังต้องพิจารณาจากแรงดัน และความถี่ของมอเตอร์อีกด้วย อันดับแรกคุณต้องเช็คดูก่อนว่าไฟบ้านของคุณเป็นไฟ Single Phase หรือ Three Phase และปั๊มสระว่ายน้ำที่ต้องการสามารถเดินสายไฟเข้ากับระบบไฟฟ้าของคุณได้ไหม และปั๊มที่ต้องการเป็นแบบ 50Hz หรือ 60Hz เพราะถ้าหากคุณนำปั๊มที่ 60Hz มาใช้กับระบบไฟ 50Hz คุณอาจจะต้องปวดหัวมากขึ้นตามมา เมื่อประสิทธิภาพปั๊มของคุณจะทำงานไม่เต็มที่อย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่ามันอาจจะส่งผลให้อัตราการไหลของคุณถูกลดประสิทธิภาพลงนั่นเองครับ
วัสดุของปั๊มสระว่ายน้ำ
และนอกจากระบบไฟฟ้าแล้ว คุณยังต้องพิจารณาในส่วนสำคัญอีก 1 สิ่ง ก็คือวัสดุปั๊มนั่นเอง เนื่องจากว่า ระบบสระว่ายน้ำเป็นระบบที่มีการใช้งานร่วมกับสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นคลอรีน น้ำยาปรับสภาพต่าง ๆ รวมไปถึงเกลือที่ใช้ผลิตคลอรีน สารเคมีแต่ละอย่างก็อาจจะส่งผลเสียให้กับปั๊มสระว่ายน้ำของคุณได้ ถ้าหากใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม หรือไม่สามารถทนทานการกัดกร่อนได้ คุณอาจจะได้เปลี่ยนอะไหล่บ่อย ๆ หรืออย่างร้ายแรงคุณก็อาจจะได้ปั๊มใหม่เร็วขึ้น โดยปัจจุบัน ปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำจะนิยมใช้วัสดุในการผลิต เสื้อปั๊มด้วยเทอร์โมพลาสติกแบบพิเศษ ซีลและโอริงต่างๆ จะเป็นวัสดุเกรดที่ทนการกัดกร่อนของคลอรีนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงชาร์ปซีล หรือส่วนที่เป็นมอเตอร์จะนิยมใช้เป็นวัสดุสแตนเลสที่ทนทานต่อการกัดกร่อน และสนิมได้มากกว่าปั๊มเหล็กหล่อ ดังนั้นควรเลือกปั๊มที่ใช้วัสดุที่มีความทนทาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวได้นานมากยิ่งขึ้น
และเมื่อเราได้ทำความเข้าใจโดยรวมถึง องค์ประกอบต่าง ๆ ของปั๊มสระว่ายน้ำแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะไปเลือกปั๊มสระว่ายน้ำ เพื่อให้เหมาะสมกับสระว่ายน้ำของคุณมากที่สุด สามารถตามไปได้ที่บทความเรื่อง “การเลือกปั๊มสระว่ายน้ำให้เหมาะสม” ได้เลยครับ และครั้งต่อไปเราจะนำบทความดี ๆ ที่มีประโยชน์ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเกี่ยวกับสระว่ายน้ำกันมากยิ่งขึ้นมาฝากครับ