ปั๊มสระว่ายน้ำ

ทำความรู้จักกับปั๊มน้ำสระว่ายน้ำมีความสำคัญอย่างไร

ระบบการทำงานของสระว่ายน้ำหนึ่งแห่งประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักคือ ระบบหมุนเวียนน้ำ, ระบบกรอง และระบบฆ่าเชื้อโรค ซึ่งระบบการทำงานทั้งหมดนี้ก็จะมีอุปกรณ์เฉพาะด้านที่คอยทำงานในแต่ละภาคส่วน โดยที่ทั้งหมดมีความเชี่อมโยงกันทั้งหมด ปั๊มสระว่ายน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ประกอบไปด้วยมอเตอร์ที่เป็นส่วนหลักให้เกิดกำลังในการดูดน้ำทำงานควบคู่กับใบพัด โดยกระแสไฟฟ้าเป็นพลังงานหลักของอุปกรณ์ชุดนี้

หน้าที่ของปั๊มน้ำสระว่ายน้ำ คือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยจัดการในส่วนของการไหลเวียนของน้ำภายในสระ เพื่อให้เกิดความสมดุลพร้อมใช้งานได้อยู่เสมอ โดยน้ำที่ผ่านการดูดจากปั๊มจะถูกส่งไปยังระบบกรองของสระว่ายน้ำ บางแห่งก็ใช้เป็นคลอรีน หรือใช้ระบบเกลือเพื่อเข้าสู่กระบวนการกำจัดเชื้อโรค จากนั้นก็จะทำการปล่อยน้ำกลับเข้าไปในสระตามเดิม เป็นกระบวนการที่ทำงานต่อเนื่องไม่รู้จบ

ปั๊มสระว่ายน้ำมีกี่ประเภท

ปั๊มสระว่ายน้ำสามารถแบ่งประเภทออกได้ 2 กลุ่มหลักๆ ตามลักษณะการทำงานของตัวปั๊ม โดยสามารถจำแนกได้ดังนี้

1.ปั๊มสระว่ายน้ำประเภทความเร็วเดียว (Single Speed)

เป็นปั๊มน้ำสระว่ายน้ำที่ทำงานด้วยมอเตอร์ของเครื่องเป็นหลักเพียงตัวเดียว โดยพลังหรือแรงที่ได้นั้นจะมาจากแรงม้าที่เกิดจากการหมุนของมอเตอร์เท่านั้น เป็นปั๊มที่สามารถหาซื้อได้ง่าย การดูแลรักษาไม่จุกจิกและเป็นที่นิยมในตลาด

2.ปั๊มสระว่ายน้ำแบบปรับความเร็วได้ (Variable Speed)

สุดท้ายเป็นปั๊มที่สามารถปรับความเร็วของมอเตอร์และสามารถควบคุมรอบการทำงานของเครื่องได้ โดยปั๊มประเภทนี้มีข้อดีคือสามารถปรับความเร็วของปั๊มได้อย่างอิสระ เพราะมีความเร็วหลายระดับและที่สำคัญ ยังช่วยให้ระบบสระว่ายน้ำสามารถทำงานได้หลากหลายสถานการณ์มากกว่าปั๊มประเภทอื่นๆ

คุณสมบัติที่ดีของปั๊มน้ำสระว่ายน้ำ

ด้วยความสำคัญของปั๊มสระว่ายน้ำ เจ้าของสระว่ายน้ำต้องทำความเข้าใจและศึกษาในแง่ของคุณสมบัติต่างๆ อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การเลือกซื้อปั๊มมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์ต่อสระว่ายน้ำของคุณมากที่สุด โดยคุณสมบัติที่ดีของปั๊มมีดังต่อไปนี้

1.กำลังและความแรงของมอเตอร์ปั๊ม

ความแรงของปั๊มเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับขนาดของสระว่ายน้ำ เพราะสามารถช่วยกำหนดได้ว่าควรเลือกปั๊มที่มีกำลังและความแรงขนาดไหน โดยจะมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาคือ “แรงม้า” เป็นหน่วยวัดความเร็วของมอเตอร์ที่ใช้กำหนดทั่วไป ซึ่งในระดับความแรงของปั๊มแต่รุ่นจะมีการระบุขนาดของสระไว้อย่างชัดเจน และอีกสิ่งที่ต้องพิจารณาคืออัตราการหมุนเวียนน้ำ ที่มีหน่วยวัดเป็น ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง โดยอัตราการไหลเวียนที่ดีจะต้องสามารถดูดน้ำเข้าสระได้อย่างรวดเร็ว

2.ระบบไฟฟ้าของตัวปั๊ม

ระบบไฟฟ้าเป็นเรื่องถัดมาที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะขนาดของปั๊มแต่ละตัวก็จะมีอัตราหรือกำลังในการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป โดยแรงดันไฟฟ้า Single speed คือ 220 V และแบบ 3 Phase แรงดันไฟฟ้าจะอยู่ที่ 380 V ดังนั้นคุณควรเลือกซื้อปั๊มน้ำสระว่ายน้ำที่สามารถรับรองแรงดันไฟฟ้าที่สามารถรับได้ 220 V และ 380 V สำหรับ 3 Phase จึงจะทำให้ปั๊มทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

3.วัสดุที่ใช้ผลิตปั๊มน้ำ

ด้วยการทำงานของปั๊มสระว่ายน้ำที่ต้องทำงานต่อเนื่องมากถึง 8 ชั่วโมง จึงเป็นเรื่องปกติที่ตัวมอเตอร์จะมีความร้อนอยู่เสมอ ดังนั้นตัวปั๊มควรผลิตด้วยวัสดุที่มีความทนทานต่อการใช้งาน และสามารถทนต่อความร้อนได้ เช่น เทอร์โมพลาสติกเสริมใยแก้ว พลาสติกเกรดสูงที่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมีจากทั้งคลอรีนและเกลือได้ดี เป็นต้น

ปั๊มสระว่ายน้ำ นับเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับระบบสระว่ายน้ำ เพราะเปรียบเสมอเป็นหัวใจสำคัญของระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งน้ำไปยังระบบกรอง ส่งต่อไปยังระบบหมุนเวียนน้ำ และส่งต่อไปรับระบบฆ่าเชื้อโรคของน้ำภายในสระ ดังนั้นการเลือกซื้อปั๊มจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของสระว่ายน้ำต้องทำการบ้านพอสมควร เพื่อการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพทำให้สระว่ายน้ำพร้อมใช้งานอยู่เสมอ คุณสามารถปรึกษากับทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ J5 เพื่อให้คุณได้ปั๊มน้ำที่เหมาะสำหรับระบบสระว่ายน้ำของคุณมากที่สุด