หลายๆท่านที่รักการทำกิจกรรมทางน้ำหรือการว่ายน้ำ คงทราบกันเป็นอย่างดีว่าการว่ายน้ำเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ได้ผลลัพธ์อย่างมากเพราะสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้มาก และ สามารถออกกำลังกายได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่าอุณหภูมิของน้ำในแต่ละช่วงนั้นเหมาะสมกับการดำเนินกิจกรรมทางน้ำแต่ละประเภทที่แตกต่างกันอย่างไร วันนี้จะพามาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุณหภูมิที่เหมาะกับกิจกรรมแต่ละประเภทให้ถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงสุด
อุณหภูมิที่เหมาะสมกับกิจกรรม แต่ละประเภท แบ่งออกเป็น ดังนี้
1. อุณหภูมิ ระหว่าง 25⁰C – 28⁰C ( 77 – 82⁰F ) เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการฝึกว่ายน้ำและการออกกำลังกาย
2. อุณหภูมิ ระหว่าง 29⁰C – 35⁰C ( 77 – 82⁰F ) เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการบริหารร่างกายและการออกกำลังกายแบบแอโรบิค
3. อุณหภูมิ ระหว่าง 36⁰C – 40⁰C ( 96.8 – 104⁰F ) เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการแช่น้ำผ่อนคลายเพื่อฟื้นฟูและการบำบัดร่างกาย
1. อุณหภูมิ ระหว่าง 25⁰C – 28⁰C ( 77 – 82⁰F ) เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการฝึกว่ายน้ำและการออกกำลังกาย อาจจะคิดว่าเป็นอุณหภูมิที่เย็นมาก แต่เมื่อว่ายน้ำในระยะเวลาที่นานขึ้นร่างกายก็จะมีความร้อนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นอุณหภูมิข้างต้นจึงเหมาะกับการนำมาฝึกและการออกกำลังกายที่หนัก เพราะจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายรวมถึงยังช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายตลอดการว่ายน้ำให้เกิดความสมดุล
2. อุณหภูมิ ระหว่าง 29⁰C – 35⁰C ( 77 – 82⁰F ) เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการบริหารร่างกายและการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ความร้อนในช่วงนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบหัวใจ และ ปอด เป็นต้น การออกกำลังในลักษณะนี้หมายถึง การเดินในสระ การเต้นแอโรบิคในน้ำ การวิ่งเบาๆในน้ำ เป็นต้น การออกกำลังในลักษณะดังกล่าวยังดีต่อการฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้ป่วยที่กล้ามเนื้อบาดเจ็บ ข้อต่ออักเสบ หรือต้องการฟื้นฟูร่างกายเพื่อการผ่อนคลาย
3. อุณหภูมิ ระหว่าง 36⁰C – 40⁰C ( 96.8 – 104⁰F ) เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการแช่น้ำผ่อนคลายเพื่อฟื้นฟูและการบำบัดร่างกาย ความร้อนในช่วงนี้อาจจะไม่แนะนำสำหรับการทำกิจกรรม 2 อย่างข้างต้น เพราะเนื่องจากใช้อุณหภูมิที่ค่อนข้างสูงจึงไม่เหมาะที่จะเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย ตลอดเวลาหรือหนักๆเพราะจะทำให้สูญเสียพลังงานจำนวนมากและอาจจะเกิดอาการอ่อนเพลียหรือช๊อกได้ เนื่องจากความร้อนมีส่วนช่วยในการเผาผลาญพลังงานอยู่แล้วดังนั้นจึงแนะนำให้นั่งหรือเคลื่อนไหวได้เล็กน้อยเพื่อรักษาพลังงาน ซึ่งความร้อนในช่วงนี้จะทำให้ร่างกายผ่อนคลายและช่วยรีเฟรชความสดชื่นกลับคืนมาอีกครั้ง
ประโยชน์ของการว่ายน้ำ
- ช่วยลดน้ำหนัก หากว่ายน้ำในระยะเวลา 30 นาที จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 367 แคลอรี่
- ช่วยลดความเครียด จากผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 74% มีความคิดเห็นว่าการว่ายน้ำช่วยให้ลดความเครียดและสร้างความผ่อนคลายได้ ( จากประชากรตัวอย่าง จำนวน 74,000 คน )
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เนื่องจากการว่ายน้ำไม่มีอุปกรณ์เสริม จึงเป็นการใช้ร่างกายทุกส่วน
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เนื่องจากการว่ายน้ำจึงมีจังหวะที่จะต้องดำน้ำ นั้นจึงทำให้ฝึกการทำงานของปอดหัวใจ และระบบทางเดินหายใจ ให้แข็งแรง เป็นต้น
- ช่วยเสริมสร้างการนอนหลับที่ดีขึ้น เพราะการว่ายน้ำต้องใช้ทุกส่วนของร่างกายจึงทำให้เกิดการใช้พลังงานจำนวนมาก ดังนั้นอาจจะทำให้ร่างกายต้องการการพักผ่อนที่มากขึ้น
หากท่านอยากเพิ่มอุณหภูมิให้กับสระน้ำของท่านเพื่อการผ่อนคลายที่มากขึ้น ขอแนะนำอุปกรณ์ทำความร้อนสำหรับสระว่ายน้ำ (Heater และ Heat Pump) ที่จะช่วยให้กิจกรรมทางน้ำต่างๆให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ซึ่งความพิเศษของ Heater และ Heat Pump นั้นสามารถศึกษาข้อมูลได้ ที่นี่
เชื่อว่าเมื่อทุกท่านได้อ่านเนื้อหาทั้งหมดแล้วจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าอุณหภูมิแบบไหนที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายหรือกิจกรรมทางน้ำที่เหมาะสมในแต่ละประเภท ความร้อนของน้ำนั้นย่อมมีทั้ง ข้อดี และ ข้อเสีย ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและประสิทธิภาพที่ต้องการนั้นเอง เช่น ถ้าต้องการพักผ่อนโดยไม่เน้นการเคลื่อนไหวมาก ก็อาจจะต้องใช้ความร้อนที่สูงหน่อยเพื่อทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย หรือ ถ้าหากต้องการจะฝึกการว่ายน้ำเพื่อการแข่งขัน จะต้องใช้อุณหภูมิที่เย็นมากหน่อยนั้นเอง ทางแอดมินหวังว่าทุกท่านจะนำข้อมูลที่ได้เสนอไปในครั้งนี้ จะนำไปปรับและเลือกใช้ให้เหมาะกับการใช้งานและความต้องการนะครับ
หากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องทำความหรืออุปกรณ์สระว่ายน้ำ สามารถติดต่อสอบถามกับทาง J5 บริษัทน้ำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สระว่ายน้ำที่ครบวงจร เรามีพนักงานพร้อมที่จะให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าและการวางระบบ อย่างเต็มใจและถูกต้อง