หลายๆคนคงคิดว่าถังน้ำหรือถังกรองสระว่ายน้ำ อาจจะทำมาจากพลาสติก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า พลาสติกก็มีประเภทความแข็งแรงและการใช้งานที่ต่างกัน วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับพลาสติกที่ใช้ผลิตถังกรองสระว่ายน้ำกันรวมถึงวิธีการเลือกใช้ถังกรองสระว่ายน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน ประเภทของพลาสติกที่ใช้ในการทำถังกรองสระว่ายน้ำ มักนิยมใช้ 2 ชนิด คือ โพลีเอทิลีน และ ไฟเบอร์กลาส
โพลีเอทิลีน (Polyethylene) จะนิยมใช้มาในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าที่มักจะใช้พลาสติกที่ต้องการความยืดหยุ่นและทนต่อสภาพอากาศ และราคาที่สามารถจับต้องได้ ดังนั้นไม่แปลกใจที่จะนิยมใช้พลาสติกชนิดนี้ ซึ่งคุณสมบัติของเครื่องกรองที่เป็นที่โดดเด่น ดังนี้
คุณสมบัติ
– ยืดหยุ่นได้ดี มีความเหนียวมากเมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำ
– มีความทนทานต่อสารเคมี
– ทนต่อทุกสภาวะ
– เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี
– ไม่มีกลิ่นไม่มีรส
– มีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำจึงสามารถลอยน้ำได้
ข้อควรระวัง
โพลีเอทีน เป็นพลาสติกที่ไอน้ำซึมผ่านได้เล็กน้อย แต่อากาศสามารถผ่านเข้าออกได้ ดังนั้นอาจจะต้องมีการตรวจสภาพของวัสดุที่ทำมาจากโพลิเอทีน สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและอากาศ การใช้โพลีเอทิลีนมาทำเป็นถังกรองน้ำในปัจจุบันนิยมใช้กันเพราะด้วยความยืดหยุ่นที่เป็นคุณสมบัติเด่นและราคาที่ไม่สูง จึงทำให้เป็นวัสดุยอดฮิตที่ทางผู้ผลิตส่วนใหญ่นิยมใช้
ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) คือ เส้นใยแก้วที่ถูกนำมาใช้ในการเสริมสร้างให้เกิดความแข็งแรงให้กับพลาสติกเรซิ่น และจึงขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เรือ ถังกรองสระว่ายน้ำ ชิ้นส่วนเครื่องบินต่างๆ หรือเป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์คอนกรีตเสริมใยแก้ว เป็นต้น ซึ่งส่วนประกอบหลักๆของเส้นใยนี้จะทำมาจากแก้วเป็นหลัก มีการผสมหินปูน หินฟันม้า เติมกรอบอริคและสารเติมแต่งอื่นๆ เป็นต้น ไฟเบอร์กลาสมีคุณสมบัติที่หลากหลาย ดังนี้
คุณสมบัติ
– มีความแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อนสูง ทนต่อแสงแดดและแสงUV.
– ทนต่อแรงดึงได้สูงมาก
– มีน้ำหนักเบา ซึ่งเบากว่าเหล็กถึง 4 เท่า ทำให้ขนย้ายง่าย และ ไม่เกิดการหดตัว
ข้อควรระวัง
ไฟเบอร์กลาส ผลิตขึ้นด้วยสารเคมีและวัสดุหลายชนิดซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ผิวหนัง ดวงตา ระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น ดังนั้นหากจะเลือกใช้วัสดุที่มาจากไฟเบอร์กลาสอาจจะต้องศึกษาแล้วทำความเข้าใจกับมันให้มากขึ้นหรืออาจจะต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อความปลอดภัยนั้นเอง
ในปัจจุบันถังกรองน้ำที่ผลิตกจากไฟเบอร์กลาสได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับเครื่องกรองขนาดใหญ่ เนื่องจากคุณสมบัติที่ทนทานต่อทุกสภาวะและน้ำหนักที่เบา จึงทำให้ราคาสูงกว่าเครื่องกรองโพลีเอทีนเล็กน้อย
ในอุตสาหกรรมการผลิตถังกรองน้ำ ณ ขณะนี้มีการใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยต่างๆหรือการใช้เทคโนโลยีการผลิตและวัสดุที่ดี เพื่อทำให้ตัวถังกรองน้ำเหล่านั้นมีคุณสมบัติที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นซึ่งถังกรองน้ำทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมานั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคและข้อจำกัดของสถานที่ในการติดตั้ง
“หากท่านที่ยังสงสัยเรื่องถังกรองหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถ ติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท J5 บริษัทที่นำเข้าอุปกรณ์สระว่ายที่มากที่สุดในประเทศไทย”