หากคุณมีสระว่ายน้ำ คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากแน่ ๆ ถ้าหากว่าคุณสามารถว่ายน้ำได้เพียงแค่ช่วงเวลากลางวันเท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้คุณพลาดกับช่วงเวลาที่จะทำให้คุฯเพลิดเพลินลงไปถึงครึ่งหนึ่งเลยก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็คงไม่อยากลงว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่มืดสนิทใช่ไหม? ดังนั้นการเพิ่มแสงสว่างให้สะว่ายน้ำของคุณด้วยไฟใต้น้ำ ไม่ว่าจะแค่ 2 ดวง หรือ 10 ดวง ก็สามารถเพิ่มความสวยงาม และเติมชีวิตชีวาให้กับสระว่ายน้ำของคุณได้แล้ว และยังช่วยให้ค่ำคืนในการว่ายน้ำของรู้สึกเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นเป็นสองเท่าอีกด้วย
ไฟสระน้ำแบบ LED มันทำงานอย่างไร?
อันดับแรกเรามารู้จักกับไฟ LED สระว่ายน้ำกันก่อน ไฟ LED นั้น สำหรับไฟสระว่ายน้ำ ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าไฟ LED เข้ามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ในการช่วยเพิ่มสีสันร่วมกับการออกแบบสระว่ายน้ำ อีกทั้งยังมีประโยชน์ หรือข้อดีบางอย่างที่คุณอาจไม่เคยพิจารณาถึงมันเลย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ไฟสระว่ายน้ำแบบ LED กัน และแนะนำถึง ข้อดีและเหตุผลที่ควรเลือกใช้ไฟ LED กัน
ไฟ LED จะมีจุดเด่นที่ต่างจากหลอด Halogen (หลอดไส้) ตรงที่ไฟ LED นั้นจะทำงานโดยการผ่านกระแสไฟฟ้าผ่านตัวไมโครชิป ซึ่งจะทำให้หลอด LED ส่องสว่างขึ้นมา อีกทั้งไฟ LED ยังสามารถระบายความร้อนได้ จึงไม่เกิดความร้อนมากเท่าหลอด Halogen ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความสว่างได้เทียบเท่า หรือสูงกว่าหลอด Halogen แต่ยังสามารถยืดอายุการใช้งานได้มากกว่าหลอด Halogen อีกด้วย ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่า
เหตุผลที่ว่าทำไมไฟ LED จึงเหมาะสมกับการใช้งานกับสระว่ายน้ำในปัจจุบัน
1. ความสว่างที่เหนือชั้น
ไฟ LED นั้นสามารถให้ความสว่างที่เทียบเท่า หรือสูงกว่าหลอด Halogen สังเกตได้จาก แสงสว่างจากหลอดไฟ หรือ ค่าลูเมน ซึ่งค่าลูเมนนั้นคือค่าความสว่างของแสงที่สามารถมองเห็น โดยปกติแล้ว หลอดไฟ Halogen ขนาด 100 วัตต์ นั้นจะสามารถส่องสว่างได้ที่ประมาณ 1,400 – 1,750 ลูเมน ในขณะที่หลอดไฟ LED ที่ขนาด 18 – 24 วัตต์ ก็สามารถให้ความสว่างได้ที่ 1,400 – 1,750 ลูเมน เทียบเท่ากับหลอด Halogen 100 วัตต์ หรือไฟ LED บางชนิด สามารถให้ความสว่างได้มากถึง 5,400 ลูเมน จะเห็นได้ว่าไฟ LED สามารถให้ค่าความสว่างที่สูงกว่า
2. ประหยัดพลังงาน
เนื่องจากไฟสระว่ายน้ำ LED ใช้กำลังวัตต์ที่ต่ำกว่า จึงใช้พลังงานเพียงเศษเสี้ยว ของหลอด Halogen เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ไฟ LED ขนาด 18 – 24 วัตต์ ที่มีความสว่างเทียบเท่ากับไฟ Halogen 100 – 300 วัตต์ ซึ่งให้ความสว่างที่เท่ากัน แต่ไฟ LED นั้นกินไฟน้อยกว่ามาก จึงทำให้ประหยัดไฟได้มากกว่า
3. เติมความสดใสด้วยสีสัน
แสงจากหลอด Halogen ที่มีความสว่างเจิดจ้า อาจเหมาะสำหรับค่ำคืนที่แสนสบาย ที่สามารถนอนขดตัว แช่น้ำและเพลิดเพลินอยู่กับการอ่านหนังสือเล่มโปรด แต่อาจจะไม่สามารถสร้างอารมณ์อื่น ๆ ได้มาก แต่เพียงคุณเลือกใช้ไฟสระว่ายน้ำ LED ที่มีสีให้เลือกมากมาย หรือ ไฟบางรุ่นยังสามารถให้คุณเลือกปรับแต่งโทนสี หรือโหมดการเปลี่ยนสีได้ด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง เพียงเท่านั้น คุณก็สามารถเพลิดเพลิน และผ่อนคลายไปกับทุกอารมณ์ของคุณได้อย่างลงตัว
4. เพื่อความทนทาน และการใช้งานที่ยืนยาว
ด้วยคุณสมบัติของไฟ LED ที่สามารถระบายความร้อนได้ดีกว่าจึงมีความปลอดภัยมากกว่า ซึ่งเป็นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นคือ หลอด Halogen ที่มีความร้อนสูง โดยเฉลี่ยจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี แต่ไฟ LED ที่ใช้พลังงานน้อยกว่า แต่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าหลายเท่า
5. ลดต้นทุนการใช้งาน
การเป็นเจ้าของสระว่ายน้ำอาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่าไปพอสมควร จากผลการสำรวจในปี 2018 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การบำรุงรักษาสระว่ายน้ำมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 190 เหรียญต่อเดือน (6,000 บาท) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งการเลือกใช้ไฟ ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนลงได้ หากคุณใช้ไฟ Halogen คุณอาจจะต้องเปลี่ยน หรือบำรุงรักษามันบ่อย ๆ แต่ถ้าคุณเลือกใช้ไฟ LED คุณจะตัดปัญหาส่วนนี้ออกไปได้ และยังลดทำให้ค่าไฟของคุณถูกลงกว่าด้วย
ลักษณะแสงของไฟสระว่ายน้ำ
แสงของไฟสระว่ายน้ำในปัจจุบันมีนิยมใช้มีด้วยกันทั้งหมด 2 แบบ นั่นก็คือ แบบ แสงเดียว (Single Color) ได้แก่ แสงวอร์มไวท์, แสงสีขาว, แสงสีฟ้า และแบบเปลี่ยนสีได้ (RGB Color Changing) ที่สามารถตวบคุมด้วยรีโมทเพื่อเลือกโหมดและเปลี่ยนได้หลากหลายสี
อุปกรณ์เสริมสำหรับไฟสระว่ายน้ำ
เมื่อตอนนี้เราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทและแสงของตัวหลอดไฟแล้ว สิ่งที่มาที่ต้องทราบอีกหนึ่งข้อ การเลือกอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของไฟสระว่ายน้ำ ซึ่งมีด้วยกัน 2 ชิ้น ดังนี้
1. หม้อแปลงที่ใช้งานสำหรับระบบไฟในสระว่ายน้ำ ทั้งกระแส AC และ กระแส DC น้ำ เป็นอุปกรณ์ที่จะทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้าให้ต่ำลง เพื่อจ่ายไฟไปยังหลอดไฟแต่ละชนิด โดยปกติแล้วไฟฟ้าที่จ่ายมายังบ้านของเราคือ 220 โวลต์ (Volt) แต่หลอดไฟหรือโคมไฟที่ติดตั้งในสระว่ายน้ำต้องการแรงดันไฟฟ้าต่ำ (Low Voltage) เช่น 12 V ดังนั้นจึงต้องมีการเชื่อมต่อกับหม้อแปลงไฟ ก่อนที่จะจ่ายไฟเข้าสู่หลอดไฟนั้น ๆได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญโคมไฟทุกดวงจะต้องมีการติดตั้งสายดิน เพื่อช่วยป้องกันไฟรั่วและไฟดูด และควรเลือกหม้อแปลงกระแสให้เหมาะสมกับกระแสหลอดไฟที่ใช้งานด้วยว่าเป็นหลอดไฟกระแส AC หรือ กระแส DC
2. ในกรณีที่ไฟสระว่ายน้ำของคุณเป็นไฟแบบเปลี่ยนสีได้ หรือไฟ RGB ไฟที่เปลี่ยนสีได้นั้นจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ รีโมทคอนโทรล และกล่องควบคุมสำหรับการปรับเปลี่ยนสีของไฟสระว่ายน้ำ
หากอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ บริษัท J5 ผู้นำเข้าไฟใต้น้ำที่มากที่สุดในประเทศไทย