เมื่อพูดถึงสระว่ายน้ำแล้ว การวางระบบสระว่ายน้ำและเลือกอุปกรณ์สระว่ายน้ำ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้สระว่ายน้ำมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมั่นคง การเลือกอุปกรณ์สระว่ายน้ำให้ใช้งานได้ยาวนานและตอบโจทย์กับสระว่ายน้ำมากที่สุด การกำหนดขนาดสระว่ายน้ำ ห้องเครื่องที่ต้องตอบโจทย์ในการติดตั้งอุปกรณ์การวางระบบท่อที่ต้องสอดคล้องกับอุปกรณ์ต่างๆ และเลือกอุปกรณ์สระว่ายน้ำเพื่อให้ได้ระบบสระว่ายที่มีความปลอดภัย และสามารถบำรุงรักษาได้ง่ายนั้นเองค่ะ
กำหนดขนาดสระว่ายน้ำ
การกำหนดขนาดสระว่ายน้ำควรคำนึงถึงพื้นที่ที่มีอยู่ ความต้องการของผู้ใช้งาน และงบประมาณในการก่อสร้างและดูแลรักษาสระว่ายน้ำ
- สระว่ายน้ำส่วนตัว (Residential Pool)
ขนาดทั่วไป 4×8 เมตร, 5×10 เมตร, 6×12 เมตร
ความลึก 1.2 – 1.8 เมตร
ใช้สำหรับการพักผ่อนและออกกำลังกายเบาๆ
- สระว่ายน้ำเพื่อการแข่งขัน (Competition Pool)
ขนาดมาตรฐานโอลิมปิก 25×50 เมตร
ความลึก 2 – 3 เมตร
ใช้สำหรับการแข่งขันกีฬาและการฝึกซ้อม
- สระว่ายน้ำเพื่อการออกกำลังกาย (Exercise Pool)
ขนาดทั่วไป 3×10 เมตร, 4×15 เมตร
ความลึก 1.2 – 1.5 เมตร
ใช้สำหรับการว่ายน้ำออกกำลังกาย เช่น ว่ายน้ำท่าผีเสื้อหรือท่ากรรเชียง
- สระว่ายน้ำเพื่อการฟื้นฟูและบำบัด (Therapy Pool)
ขนาดทั่วไป 3×5 เมตร, 4×6 เมตร
ความลึก 0.9 – 1.2 เมตร
ใช้สำหรับการฟื้นฟูสุขภาพและบำบัดร่างกาย
- สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก (Children’s Pool)
ขนาดทั่วไป 3×3 เมตร, 4×4 เมตร
ความลึก 0.3 – 0.6 เมตร
ใช้สำหรับเด็กเล็กเล่นน้ำ
- สระว่ายน้ำเชิงพาณิชย์ (Commercial Pool)
ขนาดทั่วไป 10×20 เมตร, 15×30 เมตร
ความลึก 1.2 – 2 เมตร
ใช้สำหรับสถานประกอบการเชิงพาณิชย์ เช่น โรงแรม รีสอร์ท หรือสปอร์ตคลับ
ห้องเครื่องสระว่ายน้ำ
ห้องเครื่องสระว่ายน้ำเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการติดตั้งและจัดการระบบต่างๆ ของสระว่ายน้ำ เช่น ระบบกรองน้ำ ระบบฆ่าเชื้อ ระบบทำความร้อน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น โดยการออกแบบและการติดตั้งห้องเครื่องสระว่ายน้ำควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- ตำแหน่งและขนาด
ตั้งห้องเครื่องในตำแหน่งที่ใกล้กับสระว่ายน้ำเพื่อความสะดวกในการเดินท่อและการบำรุงรักษา
ขนาดของห้องเครื่องควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมด และมีพื้นที่สำหรับการเข้าถึงและบำรุงรักษาอุปกรณ์
- การระบายอากาศ
ห้องเครื่องควรมีระบบระบายอากาศที่ดีเพื่อป้องกันการสะสมของความชื้นและการเจริญเติบโตของเชื้อรา
ติดตั้งพัดลมหรือระบบระบายอากาศเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดี
- การระบายน้ำ
ห้องเครื่องควรมีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วม
ติดตั้งท่อระบายน้ำและท่อป้องกันน้ำท่วมเพื่อนำพาน้ำออกจากห้องเครื่อง
ระบบท่อ
ระบบท่อในสระว่ายน้ำเป็นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่ส่งน้ำหมุนเวียนผ่านระบบกรองน้ำ ระบบฆ่าเชื้อ และระบบทำความร้อน รวมถึงส่งน้ำกลับเข้าสู่สระว่ายน้ำ การออกแบบและติดตั้งระบบท่อควรทำอย่างถูกต้องเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- การออกแบบระบบท่อ (Piping System Design)
วางแผนการเดินท่อเพื่อให้มีการไหลของน้ำที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
เลือกขนาดท่อที่เหมาะสมเพื่อรองรับปริมาณการไหลของน้ำ
วางท่อในลักษณะที่ป้องกันการเกิดอากาศในท่อ (airlock) และลดความเสี่ยงของการอุดตัน
- ประเภทของท่อ (Types of Pipes)
ท่อพีวีซี (PVC Pipes) นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจากมีความทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน
ท่อพีวีซีเอฟเอฟ (CPVC Pipes) มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูง เหมาะสำหรับระบบทำความร้อน
ท่อเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel Pipes) ใช้ในบางส่วนที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น ท่อส่งน้ำแรงดันสูง
- การติดตั้งระบบท่อ (Pipe Installation)
วางท่อในลักษณะที่ไม่ขัดขวางการทำงานของอุปกรณ์อื่น ๆ
ใช้ข้อต่อและวาล์วที่มีคุณภาพเพื่อป้องกันการรั่วซึม
ท่อควรมีการรองรับและยึดให้แน่นหนาเพื่อลดการเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน
- การเดินท่อในห้องเครื่อง (Piping in Pump Room)
วางท่อในลักษณะที่มีระเบียบและสะดวกในการบำรุงรักษา
แยกระบบท่อสำหรับน้ำกลับเข้าสระ ท่อดูดน้ำเข้าระบบกรอง และท่อน้ำเสีย
- ระบบวาล์วและการควบคุม (Valves and Control Systems)
ติดตั้งวาล์วเปิด-ปิดน้ำเพื่อควบคุมการไหลของน้ำในแต่ละส่วนของระบบ
ใช้วาล์วควบคุมความดันและวาล์วควบคุมทิศทางน้ำเพื่อลดการเกิดแรงดันเกินและการไหลกลับ
การรออกแบบและติดตั้งระบบท่อในสระว่ายน้ำอย่างถูกต้องจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของปัญหาต่างๆ และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานสระว่ายน้ำ
การเลือกอุปกรณ์สระว่ายน้ำ
การเลือกอุปกรณ์สำหรับสระว่ายน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การดูแลรักษาสระว่ายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย สำหรับ ปั๊มสระว่ายน้ำ ถังกรอง และระบบฆ่าเชื้อโรคค่ะ
1. ปั๊มสระว่ายน้ำ คือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการหมุนเวียนน้ำภายในสระว่ายน้ำ เพื่อให้อุปกรณ์สระว่ายน้ำอื่นๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ และพร้อมใช้งานได้อยู่เสมอ ปั๊มสระว่ายน้ำสามารถแบ่งประเภทออกได้ 2 กลุ่มหลักๆ ตามลักษณะการทำงานของตัวปั๊ม
ปั๊มสระว่ายน้ำประเภทความเร็วเดียว (Single Speed) เป็นปั๊มน้ำสระว่ายน้ำที่ทำงานด้วยมอเตอร์ของเครื่องเป็นหลักเพียงตัวเดียว โดยพลังหรือแรงที่ได้นั้นจะมาจากแรงม้าที่เกิดจากการหมุนของมอเตอร์เท่านั้น เป็นปั๊มที่สามารถหาซื้อได้ง่าย การดูแลรักษาไม่ยุ่งยากและเป็นที่นิยม
ปั๊มสระว่ายน้ำแบบปรับความเร็วได้ (Variable Speed) ปั๊มที่สามารถปรับความเร็วของมอเตอร์และสามารถควบคุมรอบการทำงานของเครื่องได้ โดยปั๊มประเภทนี้มีข้อดีคือสามารถปรับความเร็วของปั๊มได้อย่างอิสระ เพราะมีความเร็วหลายระดับและที่สำคัญ ยังช่วยให้ระบบสระว่ายน้ำสามารถทำงานได้หลากหลายสถานการณ์มากกว่าปั๊มประเภทอื่นๆ
2. ระบบกรอง ระบบกรองสระว่ายน้ำเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้น้ำสะอาด ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับการว่ายน้ำ การเลือกและติดตั้งระบบกรองน้ำที่เหมาะสมจะช่วยให้การดูแลรักษาสระว่ายน้ำเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน โดยระบบกรองน้ำสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
เครื่องกรองก่อนเข้าระบบกรองหลัก เครื่องกรองก่อนเข้าระบบ หรือที่เรียกว่า Pre-filter ในระบบสระว่ายน้ำ มีหน้าที่หลักในการกรองสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ เช่น ใบไม้ กิ่งไม้ และเศษขยะอื่นๆ ก่อนที่น้ำจะเข้าสู่เครื่องกรองหลักของสระว่ายน้ำ ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องกรองหลักอุดตันและยืดอายุการใช้งานของเครื่องกรองหลัก เนื่องจากลดปริมาณเศษขยะที่ต้องผ่านเครื่องกรองหลัก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในพื้นที่ที่มีใบไม้หรือเศษขยะตกลงในสระบ่อยๆ
เครื่องกรองทราย สามารถกรองสิ่งสกปรกได้อยู่ที่อนุภาค 30 ไมครอน จุดเด่นของเครื่องกรองสระว่ายน้ำประเภทนี้ นอกจากจะใช้ทรายกรองสิ่งสกปรกแล้ว ยังสามารถใช้ร่วมการสารกรองอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกรอง รวมถึงยังใช้งานสะดวก และดูแลรักษาได้ง่าย
เครื่องกรองคาร์ทริจ เครื่องกรองคาร์ทริจ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่าเครื่องกรองกระดาษ โดยทั่วไปแล้วเครื่องกรองประเภทนี้จะสามารถกรองสิ่งสกปรกได้อยู่ที่ความละเอียด 20 – 30 ไมครอน เหมาะกับสระว่ายน้ำขนาดกลาง ที่มีห้องเครื่องสระว่ายน้ำพื้นที่ขนาดจำกัด รวมถึงยังเหมาะกับสระว่ายน้ำขนาดเล็ก บ่อน้ำพุ หรือบ่อโชว์
เครื่องกรอง DE หรือ เครื่องกรองผ้า เป็นเครื่องกรองสระว่ายน้ำที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ละเอียดที่สุด 3 – 5 ไมครอน ใช้งานควบคู่กับผงกรอง DE หรือน้ำยาปรับสภาพน้ำต่าง ๆ ร่วมด้วย เพื่อช่วยดักจับสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนในน้ำได้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย เหมาะกับสระว่ายน้ำขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่
3.ระบบฆ่าเชื้อโรค ระบบบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำสะอาด ปลอดภัย และปราศจากเชื้อโรค ระบบบำบัดน้ำประกอบด้วยกระบวนการและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อรักษาคุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำ ระบบฆ่าเชื้อโรคสระว่ายน้ำในปัจจุบันมีอะไรบ้าง?
ระบบเกลือ เป็นระบบสระว่ายน้ำที่ใช้ เกลือบริสุทธิ์ 99.9 % มาแปลงเป็นคลอรีน เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆในสระว่ายน้ำด้วยกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) ของเครื่องผลิตคลอรีนจากเกลือ ซึ่งสระระบบเกลือเหมาะกับสระว่ายน้ำทุกประเภทไม่ว่าเป็นสระว่ายน้ำระบบสปา หรือสระว่ายน้ำทั่วไป
ระบบน้ำแร่ สระระบบน้ำแร่ธรรมชาติซึ่งมีแร่ธาตุหลากหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น แร่แมกนีเซียม ที่เป็นตัวช่วยเสริมสำหรับสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบธรรมดา ให้กลายเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำแร่
ระบบยูวี & โอโซน เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคแบบเหนือขั้น โดยใช้ UV และ OZone ในการกำจัดเชื้อโรค ซึ่งเป็นระบบเสริมสำหรับการช่วยฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำที่ระบบหลักไม่สามารถจัดการได้ เช่น CRYPTOSPORIDIUM GIARDIALAMBLIA LEGIONELLA เสริมประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำได้ถึง 99.9% ถือเป็นระบบที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
เรียกได้ว่าการที่จะมีสระว่ายน้ำ ต้องทำความรู้จักกับระบบสระว่ายน้ำ และอุปกรณ์ที่ใช้งานกับสระว่ายน้ำกันอย่างละเอียดเลยทีเดียวค่ะ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียด ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบระบบ ไปจนถึงวางระบบและติดตั้ง และยังจำหน่ายอุปกรณ์สระว่ายน้ำ รวมถึงบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซม ทำให้การติดตั้งระบบสระว่ายน้ำเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ! สามารถทักเข้ามาสอบถามได้ที่ LINE @j5pool